วัวอาคม วัวธนู หลวงพ่อน้อย วัดศีรษะทอง สุดยอดพระเกจิอาจารย์สายอาคม บูชาป้องกันภัยสิ่งไม่ดีต่างๆ
บูชาแล้วให้น้อมระลึกถึงปรมาจารย์ ผู้ริเริ่มการสร้างวัวธนู ก็คือ สมเด็จพระวันรัตน วัดป่าแก้ว เป็นท่านแรก และองค์สุดท้ายให้น้อมระลึกถึงหลวงพ่อน้อย วัดศีรษะทอง เสร็จแล้วให้ภาวนาพระคาถากำกับวัวธนู ซึ่งมีข้อความดังนี้
เวทาสากุกุ ทาสาเวทา ยัสสะตะถะสาสา ทิกุกุทิสาสา กุตะกุ ภูตะภุโค โหตุเต ชัยยะมังคลานิ
เมื่อพูดถึงวัวธนูแล้ว ขอเสริมเรื่องควายธนูสักนิดก็แล้วกัน ที่จริงควายธนูกับวัวธนูนั้นต่างกัน เดิมทีในยุคนั้นมีแต่หลวงพ่อน้อย วัดศีรษะทอง ท่านสร้างเพียงผู้เดียวเท่านั้น สำหรับควายธนูเท่าที่ทราบมีการสร้างด้วยกันหลายอาจารย์ ทางภาคแถบทิศตะวันออกเฉียงเหนือ โดยส่วนใหญ่ใช้โครงสร้างรูปร่างควายธนูจากไม้ไผ่ที่ล้มขวางทาง เชื่อกันว่าขลังในตัว มาเหลาเป็นเส้นตอก นำมาถักเป็นโครงรูปควายธนู แล้วใช้กระดาษสาเขียนอักขระยันต์ใส่บรรจุไว้ในโครงไม้ไผ่อีกที แล้วพอกตัวควายธนูด้วยผง ทาทับด้วยรัก ให้เกิดความคงทน และนำมาปลุกเสก
ด้านพุทธคุณ และคุณประโยชน์ของวัวธนู เชื่อกันว่า วัวธนูของหลวงพ่อน้อย วัดศีรษะทองนั้นพุทธคุณครอบจักรวาลจริง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเมตตามหานิยม มีเสน่ห์ การค้าการขายดีเยี่ยม ปกป้องคุ้มครองทั้งตัวเอง และที่บ้าน ศัตรูกลับมารัก ทำน้ำมนต์ก็ดีเลิศ คือใช้น้ำที่อาบวัวธนูนั้นมาอาบตัวเรา เชื่อว่าจะไม่เจ็บป่วย ถ้าป่วยอยู่ ก็จะหายวันหายคืน ถ้าอาบประจำก็จะทำให้มีโชค มีลาภทั้งปี